วันอังคารที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

กล่องไฟถ่ายรูปสินค้า ทำมาจากพลาสติกอย่างดี ทนทาน กันน้ำ และมีคุณสมบัติ ช่วยให้แสงสว่างต่อการถ่ายสินค้า ตอนที่ 2

จนถึงเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ บุญมือ ชนบทก็เริ่มเขียนคอลัมน์รายเดือนลงหนังสือ “ศิลปวัฒนธรรม” มีชื่อคอลัมน์ว่าร้อยเอ็ดเจ็ดย่านนํ้า เขียนจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ก็ฃอพัก สิริรวมเป็นเวลา ๑๖ เดือน ไต้ข้อเขียน ๑๖ ตอน แล้วเอามาพิมพ์รวมก้นเป็นหนังสือเล่มนี้พึ้นฐานอันยาวนานและแข็งแกร่งของบุญมือ ชนบทอยู่ในสวนบางขุนเทียน กรุงธนบุรี เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดราชโอรส (วัดจอมทอง) แล้วเริ่มเขียนกลอนที่นี่ เริ่มอ่านวรรณคดีก็ที่นี่ หลังจากนั้นขยายขอบเขตออกไปกว้างขวางประดุจนี้าในคลองบางขุนเทียนไหลออกไปเชื่อมคลองอื่นๆ แล้วลอยละล่องเป็นระลอกออกสู่อ่าวไทยไปทะเลสมุทรเป็นที่แล้วก็เพราะอย่างนี้แหละ ในร้อยเอ็ดเจ็ดย่านนํ้าเล่มนี้ถึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของบางขุนเทียนที่มีวัดราชโอรส วัดนางนอง และวัดหนังเป็นศูนย์กลาง ทั้ง ๓ วัดนี้เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ เพราะเป็นถิ่นฐานของบรรดา “ข้าหลวงเดิม” ที่มีความสำคัญต่อพระองค์บุญมือ ชนบทไม่ได้ผูกพันเฉพาะบางขุนเทียน หากเชื่อมโยงความรัก เคารพ และศรัทธาไปท้องถิ่นต่างๆ ของสยามประเทศด้วยเพราะเขาเป็นนักเดินทางมาแต่เด็ก หนีเที่ยวเป็นประจำ ยิ่งโตขึ้นก็ยิ่งเดินทางมากขึ้นทั้งในหน้าที่การเรียนและความชอบส่วนตัว กล่องไฟถ่ายรูปราคาถูก  ทุกวันนี้ยิ่งเดินทางมาก เพราะเป็นคนมีศรัทธาการเดินทาง ท้าให้เห็นมากรู้จักบ้านเมืองมาก เข้าใจท้องถิ่นมาก คลุกคลีซาวบ้านมาก วัดไหนที่ได้ชื่อว่ามีพระดีก็จะไปท้าบุญวัดนั้นเรื่อยๆ นี่เป็นอานิสงส์สำคัญมาก จนหน้าตาเปีนพระแต่ไม่ได้ห่มจีวรเท่านั้นในร้อยเอ็ดเจ็ดย่านนํ้าเล่มนี้ถึงมีภาพของชนบทสอดแทรกอยู่เกือบทั้งหมด และน่าจะเขียนอีก เขียนให้มากกว่านี้อีก เพราะบุญมือชนบทมี “คลัง” มหึมาในเรื่องอย่างนี้“คลัง” กล่องไฟสตูดิโอ  ขนาดใหญ่ของบุญมือ ชนบทอีกอย่างหนึ่งคือการอ่านหนังสือ อ่านไม่เสือกทั้งหนังสือ “ปกขาว” และหนังสือเกี่ยวกับศาสนา แต่ที่สำคัญคือวรรณคดีโบราณตั้งแต่ยุคต้นกรุงศรีอยุธยา คือกำสรวลสมุทร (ที่รู้จักกันในชื่อกำสรวลศรีปราชญ์) ยวนพ่าย ทวาทศมาส พระลอ ถึงเจ้าฟ้ากัง และมหานาควัดท่าทราย ยิ่งวรรณคดียุครัตนโกสืนทรียิ่งอ่านมาก และแม่นเอามากๆ เพราะชอบทั้งหมดแถมยังเคยรับใช้ “ท่านจันทร์” หรือหม่อมเจ้าจันทร์จีรายุ รัชพี ท้าหนังสือเกี่ยวกับกวีนิพนธ์หลายเล่ม ท้าให้ยิ่งชำนาญวรรณคดี แล้วเขียนโคลงไต้อหังการนักก็เพราะอย่างนี้อีกนั้นแหละ ในร้อยเอ็ดเจ็ดย่านนั้าเล่มนี้ถึงเต็มไปด้วยบรรยากาศของวรรณคดีโบราณตระการตาตระการใจถ้ารวมประสบการณ์การอ่านกับการเดินทางแล้ว เรียกไต้เต็มปากว่าบุญมือ กล่องถ่ายภาพ ชนบทเป็นนักเดินทางชั้นเยี่ยมคนหนึ่งของสยาม  ประเทศนี้ เพราะ “เดินด้วยตา” กับ “เดินด้วยตีน” อย่างสมบูรณ์กลวิธีการเขียนของบุญมือ ชนบทคล้ายๆ การตัดต่อหนัง บางทีจะมีอิทธิพลของ ‘‘ทองคำเปลว” (ประมูล อุณหธูป) อยู่บ้าง แต่อ่านแล้วจะคิดถึง ’รงค์ วงษ์สวรรค์ มากๆ ขอให้สังเกตให้ดีเถอะแต่บุญมือ ชนบทไม่ใช่ “ผู้ดี” หากเป็น “ชาวบ้าน” ที่มี “อารมณ์ชัน” หาตัวจับยาก งานเขียนในเล่มนี้ถึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน อ่านแล้วสบายๆ แต่ซ่อนเงื่อนงำความครื้นเครงลี้ล้บสัปดนไว้อย่างแนบเนียน ตาดีก็ได้ ตาร้ายก็เสีย เพราะเล่นความกับเล่นคำซ่อนไว้หมด ใครอ่านเผินๆ จะผ่านไปอย่างจืดๆ แต่ถ้าอ่านอย่างละเอียดระ,หว่างบรรทัดแล้วบางทีจะซึมลึก

บางครั้งปล่อยถ้าก แต่บางคราวกวนโอ๊ยรบหาย ยิ่งกวนยิ่งอยากอ่านอีกเมื่อตอนที่บุญมือ ชนบทบวชอยู่ที่วัดราชโอรส ปง คิกคาปีกับ ทองเบิ้ม บ้านด่าน ไปปรนนิบัติวัตถากถึงกุฏิ วันนั้นซื้อนมตราหมืฃองดีที่สุดสมัยนั้น'ไปถวาย อุปกรณ์ไฟสตูดิโอ  ตั้งใจจะประเคนนมให้ทั้งกระปองถ้าหิวตอนกลางคืนจะได้ชงฉันเอง แต่พระไม่รับประเคน“อ้าว ทำไมล่ะ” ปงกับทองเบิ้มงุนงงสงสัย“ของอย่างนี้เขาห้ามรับประเคน ฉันได้ แต่ห้ามจับว่ะ’’ พระบุญมืออธิบายตอนนั้น แล้วก็พากันหัวร่อลั่นกุฏิจนหมาเห่าอย่างตระหนกเห็นไหม กวนโอ๊ยชิบหายบุญมือ ชนบทมักมีอารมณ์ขันมาฝากคนรู้จักเสมอๆ มีได้ขาดไม่เว้นแม้กระทั้งอารมณ์ขันทางกวีนิพนธ์ ชอบเสาะหาวรรคเด็ดๆของกวีนิพนธ์มาฝากเพื่อนๆ อย่างคราวหนึ่งเขาอ่านนิราศเรื่องอะไรจำไม,ได้แล้ว ขอพ่านนายพลเรือจวบ หงสกุล ว่าอย่างนี้เห็นร้านเจ๊กจีนทำจำได้ทั่วเจ๊กมันด่าว่าชั่ว['ท'ยอาหลีจีนจะรั่วก็รั่วของตัวซีมาว่าไทยอย่างนี้ไม่ดีเลย(กลอนบทนี้เขียนจากความจำ ถ้าบกพร่องด้องขอประทานโทษ

กล่องไฟถ่ายรูป

วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เสลทถ่ายหนัง คืออะไร และ มีที่มาที่ไปอย่างไร ตอนที่ 2



ทันใดนั้นก็บังเกิดเสียงฟ้าร้อง ฝนตกลงมาราวกับฟ้ารั่ว อูเฮียนจึงตัดสินใจลงเรีอเพื่อจะกลับมาที'ร้าน ขณะทีเขานั่งอยู่'ในเรีอนั้น เขาได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเรียกขออาลัยไปในเริอด้วย เมื่อเขามองไปพื่รีมทะเลสาบก็เห็นสาวสวย เอ คน คนหนึ่งแต่งชุดสิขาว อีกคนหนึ่งแต่งสีดำ อูเฮียนเกิดความสงสารจึงให้คนเรีอแวะเข้าไปรับขี้นมาบนเรีอ หลังจากทีได้แนะนำตัวเองแล้วอูเฮียนก็รู้ว่าคนแต่งขาวขอ ไปีซูเชน มาจากครอบครัวฑื่มีฐานะในเมีองเสฉวน ส่วนคนแต่งดำเป็นสาวใช้ซื่อ เฐ่ยวชิงเมื่อถีงที่หมายแล้วอูเฮียนได้ให้หล่อนยิมร่มไปใช้ สเลทฟิล์มถ่ายหนัง ก่อนจะจากกันสาวคนแต่งขาวได้ถามว่าอูเฮียนอยู่ทีไหนจะได้นำร่มไปดินได้ถูก แทนทีอูเฮียนจะบอก เขากลับย้อนถามถีงที่อยู่ของหล่อนและจะไปรับดินด้วยตนเองในวันรุ่งขี้นเมื่ออูเฮียนไปรับร่มดิน แม่สาวน้อยไป้ก็จัดเลี้ยงต้อนรับอย่างดี โดยมีเชี่ยวชิงคอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ด้วย ในระหว่างที่รับประทานอาหาร หล่อนได้พูดถีงการแต่งงาน หล่อนไมได้วิตกกังวลหรีอพูดถึงเรื่องเงินทองเลยหลังจากแต่งงานแล้ว อูเฮียนกับภรรยาได้เป็ดร้านขายยาอย่างใหญ่โตที่เมีองอูโจว อูเฮียนออกจะประหลาดใจอยู่มากทีไป้มีความรู้ความสามารถในการประกอบยาปรุงยา และหล่อนได้รับรักษาคนจนโดยไม่คิดค่ายาค่ารักษาแต่อย่างใดทั้งสิ้น หล่อนจึงได้รับความเคารพนับถึอจากพวกซาวบ้านมากชีวิตการแต่งงานได้อยู่กันอย่างมีความสุขได้ประมาณ'อ เดีอน จนถึงวันที่ ๖ เมษายน อันเป็นวันเกิดของ ลื่อท'งปีน ชี่งเป็นเฮียนทีได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งเภลัช ในวันนี้บรรดาเภลัซกรทั้งหลายจะต้องไปทีวัดเพื่อลักการบูชาลื่อท,งป็น  ซื้อสเลทถ่ายหนังได้ที่ไหน  อูเฮียนชี่งเป็นเภลัซกรคนหนึ่งจึงด้อง'ไปที่'วัดด้วยขณะที่อูเฮียนจะเดินกลับออกมาจากวัด พระรูปหนึ่งได้เรียกให้หยุดแล้วพูดว่าเล่าเรื่องมังกร “ประสก อาตมาขอเตือมท่านว่า ขถาะนี้มีปีศาจรายล้อมท่านอยู่จะต้องท0าลายเล้ยก่อนที'จะสายเกินนก้”อูเชียนรู้สึกกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้พิงเช่นนั้น และในวันก่อนวันแข่งเริอมังกร ท่านสมภาร ฟาไห่ แห่งวัดจิ๋นชานก็มาที่ร้านของอูเชียน ท่านสมภารได้บอกกับอูเชียนว่า ภรรยาของเขาเป็นปีศาจงูขาวส่วนคนใช้เป็นปีศาจงูดำ ดำบอกเล่าเช่นนี้ท่าให้อูเชียนงงงันไปพักหนึ่ง ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ในวันรุ่งขี้นใศร ๆ ก็ไปดูการแข่งเรีอมังกร แต่อูเชียนกับภรรยาท่าพิธีอยู่กับบ้าน หลังจากติมสุรากันคนละถ้วยแล้วไปีรู้สึกวิงเวียนศีรษะจึงยอตัวพักผ่อน หล่อนได้บอกสามีว่าจะขออยู่ตามลำพัง  สเลทราคาถูก อูเชียนเห็นอาการภรรยาผิดปกติ ก็ออกมาปรุงยาแล้วนำไปให้ในห้องอูเชียนได้เห็นงูสีขาวนอนขดอยู่รอบเตียงภรรยาของเขา

หัวใจของอูเชียนได้หยุดเต้นอย่างฉับพลันเชี่ยวชิงได้เข้ามาพบจึงปลุกนายสาวให้รู้สึกตัว ไป็ไม,อาจจะห้ามนํ้าตาไว้ได้ ต้องปล่อยให้มันหลั่งไหลลงไปบนร่างของอูเชียน มีอยู่สิงเดียวเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตสามีของหล่อนไว้ได้ก็คิอ ต้องไปขโมยยาทิพย์ที่ภูเขากุนหลุน ถึงแม้ว่าจะไกลดั้ง ๑,000 ไมล์ หล่อนก็ไม่ย่อท้อ ไต้ดั้นด้นไปเอามาจนไต้ และช่วย'ให้สามีของหล่อนกลับพินศีนรวิตขี้นมาอีกครั้งหนึ่งในวันรุ่งขี้นสมภารฟาไห่ได้มาที่บ้านอูเชียนอีกและแนะให้ไปบวชเพื่อหนีปีศาจงูขาว อูเชียนปฏิเสธแต่ภายหลังก็ถูกฟาไห่ลักพาตัวไป ไปีอูเซนและเชี่ยวชิงพยายามจะเอาตัวกลับมาให้!ด้ วิธีการทำสเลทฟิล์ม  โดยใช้เวทมนตร์ท่าให้นั้าท่วมวัดแต่ก็!ม่สำเร็จไป็คลอดลูกออกมาเป็นชาย และในที่สุดก็ถูกจับได้และถูกกักขังไว้ใต้เจตีย์เล,เฟงในหางโจวเรือมังกร  เรื่องปีศาจนางงูขาวเท่าที,อ่านดูหลายฉบับไม'ตรงกันทีเดียวนัก เซ่นปีศาจงูดำนั้น บางฉบับว่าเป็นงูเขียว (The Green Snake) และตอนที'ไป็สูเซนขอแต่งงานกับสูเชียนนั้น หล่อนได้ให้เงินแท่งกับเขาด้วย แต่ปรากฏว่ามีเงินแท่งหายไปจากคลังราซการ เอ สาวหนีไป ถูเชียนก็เลยเป็นแพะรับบาป และถูกขับไล'ให้!ปอยู่ที่สู'โจว และยังมีข้อแตกต่างอื่น ๆ อีก ส่วนดอนจบเหมีอนกันคึอ นางไป้ถูกจับขังไว้ใต้เจดีย์นี่ก็เป็นเรื่องทีเนื่องด้วยเทศกาลแข่งเริอมังกรอีกเรื่องหนื่ง เมื่อคนจีนพูดก๊งแข่งเริอมังกรก็ต้องมีเรื่องนี้แทรกอยู่ด้วยอนื่งเริอมังกรนั้นญวนเคยล่งเข้ามาทวายพระบาทสมเด็จพระ-พุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราซลำหนื่ง มีหลักฐานในพระราซพงศาวดารว่าเมื่อวันที ๕ ธันวาคม เอ๓๓'อ “เจ้าอนัมก๊กจัดได้ต้นไม้ทองเงินกับเรือพระที่นั่ง รูปมังกรล่างกระลำพัดหนัก ๑๐ ตำดึงจีน ขี้ผึ้งหนัก ๕ หาบนํ้าตาลทรายหนัก ๕ หาบ ให้วงเบ็ดตรืงองเม็ดจัด คุมเข้ามาทูลเกล้าๆ ถวาย,,


สเลทฟิล์ม