วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ขั้นตอนการจัดแสงไฟในที่มืด ให้เหมาะสมกับฉากของห้อง





เราถูกปล่อยอยู่สูงบนรางเหนือสถานีรถไฟที'เต็มไปด้วยรถดับเพลิงสีแดงเฉิดฉาย ระลอกคลื่นของความไม่สงบกระเพื่อมผ่านไปทั่วห้องโดยสาร อเล็กชาและผมมองนาทีเกาข้อมือ การพบปะกับตัวแทนในบอลตันของผมถูกนัดหมายไว้ตอนบ่ายสอง เรามีกำหนดไปถึงตอนบ่ายโมงครึ่ง อีกเดี๋ยวคงถึงเวลาที่ต้องส่งสัญญาณแจ้งเหตุร้ายไปให้เขาแล้วละเป็นไปตามคิวเปัะครับ มืเสียงด้งมาจากเครื่องกระจายเสียงชื้แจงเราว่ามืปัญหาไฟฟ้าขัดข้องกับเครื่องจักร และคนขับก็ต้องทำการตั้งเครื่องใหม่ เออ ฟังดูง่ายนะ เหมือนริสตาร์ทคอมพิวเตอร์ลักเครื่องเลย แต่ผู้ชายที่ร่วมนั่งกับเราอยู่ในเก้าอี้แบบสี่คนดูจะไม่มั่นใจอย่างนั้นเขาท่าเสียงฮึมฮำอย่างอมทุกข์เหมือนกับจะพูดว่า อย่าไปเชื่อ’ เขาอายุประมาณหกสิบ photobox มืผมสีเทาเรียบลื่นเป็นลอนอยู่เหนือหน้าผากสูงเถิกยับย่น และมืสีหน้าเหยียดหยามอย่างเป็นธรรมชาติ ขากรรไกรล่างของเขาอาจจะถูกตัดต่อมาจากสุนัขพันธ์บลัดฮาวนด์ลักตัว

“คุณคิดว่าเราจะต้องจอดอยู่อย่างนี้นานแค่ไหนครับ” ผมถาม“ฮึมมม” นี่อาจจะหมายถึงอะไรก็ได้ตั้งแต่ “ใช่ หลายชั่วโมง” ไปจนถึง “ขอโทษนะ ฟันปลอมของผมมันติดอยู่ด้วยกันก็เลยตอบไม่ได้”“อย่างน้อยเขาก็บอกคุณนะว่ามีปัญหาอะไร” อเล็กชาช่วยออกความเห็น “ในฝรั่งเศส เราต้องคอยเป็นชั่วโมงๆ โดยไม่มีข้อมูลอะไร”“ฮึมมม” ชายแก1ยํ้า “ที่นี่ปัญหามันแตกต่างกัน คุณลองไปขึ้นรถไฟไปมอนทรีลนะ และเขาก็จะบอกคุณว่าให้บริการไม,ได้เพราะกระจกหน้ารถแตก หรือไม่ก็รถไฟยังไม1ได้ส่งมาจากอัลบานี  เลย กล่องไฟถ่ายภาพราคาถูก เขาให้ข้อมูลอย่างมากเลยละ แต่ข้อมูลพวกนั้นมันงี่เง่าสิ้นดี”อะไรบางอย่างในวิธีการพูดของเขาทำให้เราทุกคนหัวเราะ และเราก็ แนะนำตัวซึ่งกันและกันเขาชื่อโจเซฟ พ่อค้าขายส่งเฟอร์นิเจอร์ที่ถึงวัยเกษียณแล้ว แต่ยังทำงานแบบไม่เต็มเวลา และเขาอยู่ระหว่างทางที่จะไปคอนเนตทิคัตเพื่อพบกับสหายนักล่าสัตว์ของเขา“ไม่ได้จะไประเบิดหัวหมาปาไคโยตีด้วยปีน M-62 นะ” เขากล่าว“เราเป็นพรานปาตัวจริง” เขาหยิบนิตยสารเล่มหนึ่งออกจากกระเป๋า เป็นนิตยสารรายเดือนสำหรับพวกคลั่งไคล้หนังกลับที่เต็มไปด้วยโฆษณาขายแจ็คเก็ตแบบมีพู'ห้อยและกางเกงหนังไม่มีเป้า “เราแต่งตัวเต็มยศมุ่งหน้าเข้าไปในปา แล้วจากนั้นก็มีแค่เรากับพวกสัตว์ คุณยิงได้แค'หนึ่งนัดด้วยปีนล่าสัตว์แบบโบราณ และถ้าคุณพลาด ก็จบแค'นั้นไม'มีการตั้งแคมป้ไพ่อะไร และถ้าคุณยิงโดนเข้าสักตัวละก็ คุณจะต้องตามรอยมันไป และจัดการมันด้วยมีดของคุณ มันแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักแม่นปีนในตัวคุณ” ทั้งหมดนี้ฟังดูโรแมนติกมากในมุมมองแบบโหดๆ“มันไม'ใช่แค่กองทหารของวอชิงตันที่กำจัดพวกอังกฤษนะ รู้มั้ย เป็นฝีมือพรานปาน่ะ ผู้คนต่างลืมเรื่องนี้กันไป และเราก็เป็นหนี้ฝรั่งเศส  อย่างมากด้วย” เขาส่งยิ้มให้อเล็กซาราวกับว่าเธอได้ช่วยเตะเจ้าพวกเสีอแดง  ลงไปแอตแลนติกเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วโน่นด้วยตัวเธอเอง“ชาวอเมริกันบางคนพูดว่าฝรั่งเศสนั้นเนรคุณกับเราในการปลดแอกตอนปี 1945 แต่เราควรจะระลึกว่าฝรั่งเศสได้ช่วยปลดแอกเรานะ

 ย้อนไปในปี 1781 กองทัพเรือของคุณจัดการยึดกองทัพอังกฤษทั้งหมดไว้ได้ที่ยอร์กทาวน์” ถึงตอนนี้ฟันของเขาคงไม1ติดกันแล้วล่ะ เขาจ้อไม่หยุดเลยรถไฟเริ่มส่งเสียง จากนั้นก็กระตุกเพื่อเคลื่อนไหวต่อเรายังไปไดไม่ใกล้เคียงกับ 165 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างที่โมไว้เลยแต่อย่างน้อยการเร่งความเร็วในระยะสันๆ ก็กำลังนำเราไปยังทิศทางที่ถูกต้อง กล่องไฟไลท์บ็อกซ์ เพียงไม,นานเราก็ทิ้งเมืองนี้ไว้เบื้องหลัง และกำลังปันหึ่งๆ ผ่านอ่าวกว้างต้องแสงอาทิตย์ส่องที่มีทั้งแปลงต้นกกปกคลุมด้วยนี้าแข็งกลุ่มบ้านหลังคาจั่วสามเหลี่ยมและบรรดาหาดทรายคอด เราเห็นเมืองแบบสแกนดิเนเวียนผ่านไปเมืองแล้วเมืองเล่า บางเมืองดูราวกับว่าเพิ่งจะมีเรือล่าวาฬผ่านไป มันน่าทึ่งครับที่ทิวทัศน์ท้องทะเลเปิดกว้างและท่าเรือเหงาหงอยเหล่านี้อยู่ใกล้กับความบ้าระหํ่าของนิวยอร์กเหลือเกิน“พวกคุณไปไกลแค่ไหน’' โจเซฟถาม“บอสตันค่ะ” อเล็กชาพูด“บังเกอร์ ฮิลล์ ” โจเซฟประกาศเสียงดังราวกับมันเป็นคำสั่งทางทหาร“17มิถุนายนปี 1775 นายพลวิลเลียม เพรสคอตต์และกลุ่มนักสูใต้ดินกลุ่มเล็กๆ ของเขาได้ปะทะกับกองทหารของอังกฤษจำนวนมากที่นั่น และต้องขอขอบคุณความเป็นพรานป่าที่ดี ชายผู้กล้าหาญไม่กี่คน แทบจะไร้อาวุธยุทธภัณฑ์ แต่พวกเขารู้วิธีใช้ปีนล่าสัตว์ และพวกอังกฤษก็ถูกยิงหางจุกตูดเมื่อพวกมันพยายามจะบุกโจมตี นั่นเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า ‘อย่ายิงจนกว่าจะเห็นสีขาวในตาของพวกเขา’ หมายถึงให้ยิงปีนในเวลาที่ได้ผลแม่นยำที่สุดเท่านั้น เพื่อประหยัดลูกกระสุน”“งั้นถ้าพวกอังกฤษใส่แว่นกันแดดอยู่ คุณก็ยิงพลาดน่ะสิ” ผมถาม และหวังว่าการไปถึงบอสตันของชาวอังกฤษอย่างผมจะไม่ย่อยยับมากขนาดนั้น“ฮึมมม” โจเซฟเปิดนิตยสารของเขาอีกครั้ง แล้วเริ่มตรวจสอบบทความเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดที่จะควักไส้กวางมูสสักตัว3.สถานีเซาท์สเตชั่นของบอสตันนั้นเป็นสถานที่ที่สว่างไสว และอากาศถ่ายเทดีเมื่อเทียบกับสถานีเพนน์ที่อยู่ใต้ดิน ที่ยืนอยู่ข้างร้านหนังสือของอาคารผู้โดยสารอย่างที่นัดหมายกันไว้คือชายผมบลอนด์ร่างสูง อายุพอๆ กับผม แต่มีจอนที่หนาและยาวกว่า และเคราแบบที่ไว้มาราวสองวัน เป็นผู้ซายแบบที่เขาเสือกให้เป็นนายแบบในแค็ตตาล็อกเสือผ้าไหมพรมหนานุ่ม นี่คือไมค์ ผู้ประสานงานจากบอสตันของผมนั่นเอง“พอลและอเล็กซาใช่ไหม หวัดดีครับ” ไมค์จับมือทักทายกับเราและส่งยิ้มกว้าง  กล่องไฟled ยิ้มที่ส่งให้อเล็กชาน่ะแสดงความต้อนรับอย่างเต็มที่ครับ แต่คิดว่าที่ส่งให้ผมนั้นเชื่อถือไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ที่ผสมอยู่ในรอยยิ้มนั้นมีเปอร์เซ็นต์ของความพอใจอยู่น้อยมาก“ขอโทษที่เรามาช้าครับ” ผมกล่าว“ไม่ต้องห่วงครับ พวกคุณเป็นชาวยุโรปคงไม่ถือนะถ้าจะเดินไปช่วงสันๆ’’ เขาพูด “เราจะไปแท็กซี่ก็ได้ แต่งานขุดใหญ่นันคงทำให้ใช้  เวลาหลายชั่วโมงเลยละกว่าจะถึงที่หมาย”“งานขุดใหญ่เหรอคะ’’ อเล็กซาถาม“เรากำลังจะไปที่ไหนครับ’’ ผมอยากจะรู้ไมค์ถือสัมภาระของอเล็กชาให้และตอบคำถามของเธอก่อน“งานขุดใหญ่ ใช่แล้วครับ อย่างน้อยสิบปีมาแล้วละที่เมืองนี้พยายามจะขุดอุโมงค์เพื่อบรรเทาความแออัดของย่านดาวน์ทาวน์ แต่วิศวกรคิดไกลเกินไปและงานก่อสร้างก็ไม่เหมาะสม เลยกลายเป็นว่ามันทำให้การขับรถรอบเมืองเป็นฝันร้ายมานับทศวรรษแล้วละ แม้ว่าจะเป็นเวลาที่ดีที่จะได้มีหุ้นในบริษัทก่อสร้างน่ะนะ พวกเขายังได้งานนี้ทำอีกหลายปี แถมมากขึ้นด้วยซํ้าตั้งแต่ไฟไหม้”



กล่องไฟถ่ายรูป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น